ประเทศไทยเคยมีคนใช้สุนัขนำทางเป็นคนแรกนั่นคือ อาจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ได้ใช้สุนัขนำทางมาทำหน้าที่เป็นดวงตา
ในช่วงที่อาจารย์ไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีโอกาสอ่านหนังสือเกี่ยวกับสุนัขนำทาง จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจขึ้นและฝันก็เป็นจริง เมื่อสหรัฐอเมริกาได้เปิดสอนหลักสูตรสุนัขนำทางอย่างเป็นทางการ หลังจากอาจารย์สำเร็จการศึกษาแล้วได้มาเข้าคอร์สฝึกวิธีการใช้สุนัขนำทาง และปีพ.ศ. 2526 อาจารย์ได้กลับมาเมืองไทยพร้อมกับ "สกิ๊ด" สุนัขสีดำพันธุ์ลาบราดอร์ สกิ๊ดทำหน้าที่สุนัขนำทางได้ 11 ปี แล้วจากไปในปี 2537 อาจารย์จึงได้นำสุนัขตัวใหม่ชื่อ "โทบี้" มาใช้แทน หลังจากนั้น 10 ปี โทบี้ก็จากไปอีก ซึ่งปัจจุบันอาจารย์ไม่ได้ใช้สุนัขนำทางแล้ว แต่หันมาใช้ไม้เท้าเพื่อนำทางแทน
สุดท้ายอาจารย์ได้กล่าวว่า "หลักการใช้สุนัขนำทางคือ อิสรเสรีภาพในการเดินทาง สามารถเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ และสิ่งที่ได้รับจากไกด์สี่ขานำทางคือการได้ออกกำลังกาย เหนือสิ่งใดคือมิตรภาพระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง"
นโยบายภาครัฐ
คนพิการทางสายตาในประเทศไทยส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้เท้าขาวเพื่อนำทาง ซึ่งยังไม่มีใครใช้สุนัขเพื่อการนำทางมาก่อน (นอกจากอาจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์) เลยยังไม่มีนโยบายภาครัฐที่เอื้ออำนวยหรือคัดค้านเกี่ยวกับการใช้สุนัขนำทางอย่างจริงจัง
ตัวกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิคนพิการคือ อนุสัญญาที่ว่าด้วยสิทธิคนพิการ CRPD อนุสัญญานี้มีผลบังคับใช้กับประเทศที่ได้ลงนาม โดยประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ลงนามแล้ว ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะข้อ 9 ความสามารถในการเข้าถึง (Accessibility) คือ เพื่อให้คนพิการดำรงชีวิตอยู่ได้โดยอิสระและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในทุกด้านของการดำเนินชีวิต ทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพ การขนส่งสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ (แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงการใช้สุนัขนำทาง)
นโยบายภาคเอกชน
ภาคเอกชนได้เล็งเห็นความสำคัญของสุนัขนำทาง โดยสายการบิน Jetstar ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัด มีเที่ยวบินในประเทศไทยจากกรุงเทพ - ภูเก็ต เป็นสายการบินที่อนุญาตให้นำสุนัขนำทางขึ้นเครื่องได้ แต่จะต้องเป็นสุนัขที่ผ่านการรับรองขององค์กรฝึกสุนัขมาแล้ว
ส่วนสุนัขนำทางที่ยังไม่ผ่านการรับรอง ต้องรอการอนุมัติก่อนจึงจะเดินทางได้ ต้องขอการอนุมัติล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง จะต้องนำเอกสารที่ใช้แสดงเกี่ยวกับสุนัขนำทาง เช่น บัตรประจำตัวสุนัขนำทาง ใบรับรองสุนัขนำทาง เป็นต้น
นโยบายภาคประชาสังคม
ในอนาคตประเทศไทยกำลังจะมีมูลนิธิสถาบันพัฒนาผู้นำคนตาบอด ได้เล็งเห็นความสำคัญของการใช้สุนัขนำทาง จึงมีโครงการเปิดตัวโรงเรียนฝึกสุนัขนำทาง สำหรับคนตาบอดในประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดโรงเรียนฝึกสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด และเพื่อประชาสัมพันธ์ให้การใช้สุนัขนำทางให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายต่อไป อีกทั้งยังเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนพิการทางสายตาในการดำรงชีวิตด้วยตนเองโดยไม่เป็นภาระต่อสังคม
และมูลนิธิฯกำลังจะคัดเลือกบุคคลทั่วไปเพื่อไปศึกษาหลักสูตรการฝึกสุนัขนำทางที่ประเทศสหรัฐสเมริกา เพื่อที่จะนำความรู้กลับมาถ่ายทอดให้กับโรงเรียนฝึกสุนัขนำทางในประเทศไทยต่อไป
สุดท้ายอาจารย์ได้กล่าวว่า "หลักการใช้สุนัขนำทางคือ อิสรเสรีภาพในการเดินทาง สามารถเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ และสิ่งที่ได้รับจากไกด์สี่ขานำทางคือการได้ออกกำลังกาย เหนือสิ่งใดคือมิตรภาพระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง"
นโยบายภาครัฐ
คนพิการทางสายตาในประเทศไทยส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้เท้าขาวเพื่อนำทาง ซึ่งยังไม่มีใครใช้สุนัขเพื่อการนำทางมาก่อน (นอกจากอาจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์) เลยยังไม่มีนโยบายภาครัฐที่เอื้ออำนวยหรือคัดค้านเกี่ยวกับการใช้สุนัขนำทางอย่างจริงจัง
ตัวกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิคนพิการคือ อนุสัญญาที่ว่าด้วยสิทธิคนพิการ CRPD อนุสัญญานี้มีผลบังคับใช้กับประเทศที่ได้ลงนาม โดยประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ลงนามแล้ว ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะข้อ 9 ความสามารถในการเข้าถึง (Accessibility) คือ เพื่อให้คนพิการดำรงชีวิตอยู่ได้โดยอิสระและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในทุกด้านของการดำเนินชีวิต ทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพ การขนส่งสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ (แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงการใช้สุนัขนำทาง)
นโยบายภาคเอกชน
ภาคเอกชนได้เล็งเห็นความสำคัญของสุนัขนำทาง โดยสายการบิน Jetstar ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัด มีเที่ยวบินในประเทศไทยจากกรุงเทพ - ภูเก็ต เป็นสายการบินที่อนุญาตให้นำสุนัขนำทางขึ้นเครื่องได้ แต่จะต้องเป็นสุนัขที่ผ่านการรับรองขององค์กรฝึกสุนัขมาแล้ว
ส่วนสุนัขนำทางที่ยังไม่ผ่านการรับรอง ต้องรอการอนุมัติก่อนจึงจะเดินทางได้ ต้องขอการอนุมัติล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง จะต้องนำเอกสารที่ใช้แสดงเกี่ยวกับสุนัขนำทาง เช่น บัตรประจำตัวสุนัขนำทาง ใบรับรองสุนัขนำทาง เป็นต้น
นโยบายภาคประชาสังคม
ในอนาคตประเทศไทยกำลังจะมีมูลนิธิสถาบันพัฒนาผู้นำคนตาบอด ได้เล็งเห็นความสำคัญของการใช้สุนัขนำทาง จึงมีโครงการเปิดตัวโรงเรียนฝึกสุนัขนำทาง สำหรับคนตาบอดในประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดโรงเรียนฝึกสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด และเพื่อประชาสัมพันธ์ให้การใช้สุนัขนำทางให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายต่อไป อีกทั้งยังเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนพิการทางสายตาในการดำรงชีวิตด้วยตนเองโดยไม่เป็นภาระต่อสังคม
และมูลนิธิฯกำลังจะคัดเลือกบุคคลทั่วไปเพื่อไปศึกษาหลักสูตรการฝึกสุนัขนำทางที่ประเทศสหรัฐสเมริกา เพื่อที่จะนำความรู้กลับมาถ่ายทอดให้กับโรงเรียนฝึกสุนัขนำทางในประเทศไทยต่อไป
ขอสุนัขนำทางสำฟรับคนตาบอดได้ที่เบอโทรศัพท์อะไร
ตอบลบ